กะเหรี่ยง uk : นอกราชอาณาจักรไทยครั้งแรก ในชีวิต #4
ผมนั่งจุ้มปุ๊ก อยู่บนสายการบินแขกมาหลายชั่วโมงแล้ว
เริ่มรู้สึกเหมือน ตัวเองกำลังเข้าคอร์ส ขุนลูกสุกรเพิ่มน้ำหนักระยะสั้นยังไงไม่รู้
หลับ ๆ อยู่เดี๋ยวพี่หนวดก็จะเปิดไฟปลุก จิกหัวขึ้นมากินอาหาร เป็นระยะ ๆ
กินเสร็จ นอนต่อ ซักพักก็ปลุกมากินขนม หรือเครื่องดื่มอีก
อาหารที่มาเสริฟรอบนี้ หน้าตาจะดูไม่น่าไว้ใจ
สภาพมันคล้าย ๆ ว่าจะเป็นน้ำแกง คล้ายแกงกะหรี่ และมีเม็ด ๆ อะไรซักอย่าง
อยู่ในน้ำแกงด้วย ไม่แน่ใจว่าเป็นถั่วอะไร หวังในใจว่าคงไม่ใช่ถั่วดำ
ข้าวก็ไม่มีให้กูกินด้วย หรือว่า นี่มันคงเป็นซุปแขกมากกว่ามั้ง
แต่ยังไง ก็คงไม่ได้มีโอกาส กินอาหารแขกกลางอากาศบ่อยนัก
ตอนนี้ถึงแม้ว่าจะไม่หิวเลย แต่ก็จะลองตักเข้าปากดูซะหน่อยละกัน
.
.
แง่มมม
.
.
.
อร่อยชิบ !!!!
.
.
.
น้ำแกงหอมเครื่องเทศ ฉุน ทิ่มเข้าไปในจมูก
มีรสเผ็ดร้อนผ่าว ๆ กำลังดี ไอ้ถั่วเม็ด ๆ นั่นก็หวานมัน นุ่มละมุน
ซึมซับน้ำแกงไว้ชุ่มเชียว
คนเรามันดูกันที่หน้ากะหนวด ไม่ได้จริง ๆ ด้วย
นี่พวกมึงจะมาขับเครื่องบินกันทำไม ทำไมไม่ไปเปิดร้านอาหารเนี่ย
ผมซดน้ำแกงจนเกือบเกลี้ยงถาดฟลอยด์ ใจจริง แทบจะอยากยก ถาดมาเลีย
แต่กลัวว่า นังหนวดดก มันผ่านมาเห็นแล้วเกิดมีอารมณ์ขึ้นมา เดี๋ยวงานเข้า
เลยต้อง เอาช้อนกวาดกิน เอาเท่าที่ทำได้แต่พองาม
อร่อยจัง นี่ถ้ามีข้าวสวยกินด้วยคงจะดีไม่น้อย
กินเสร็จ นั่งลูบพุงนุ้ยอยู่เพลิน ๆ ก็เหลือบไปเห็นผู้โดยสารแขกฮิปฮอป ที่นั่งอยู่เยื้อง ๆ
กำลังนั่งกินข้าวกล่องอยู่เหมือนกัน
เอ๋ ....
มันมีโรตีแผ่นกลม ๆ อยู่ในมือ แล้วมันก็ควักน้ำแกง เอามาป้าย แล้วก็เอาเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ
พร้อมกะโยกหัวไปตามจังหวะเพลงฮิปฮอปแขก ที่เสียบอยู่ในหูมัน
(เห็นในจอทีวีที่หน้าเบาะมัน เป็น MV แขกฮิปฮอป วิ่งสับขาหลอก หลบกันอย่างเมามันส์)
อ้าว ไอ้แผ่น ๆ นั่นโรตี กินได้หรอกหรอ
กูนึกว่าที่รองแก้ว
ทำไมกูควายอย่างนี้ ถึงว่าที่รองแก้วทำไมมันใหญ่จริง
มีใครเห็นกู ออนเดอะร็อค ไปแล้วบ้างเนี่ย...
อับอายไปถึงไหน ๆ
แกล้งหลับหนีอายดีกว่า...
ตอนนี้ใกล้จะถึงคูเวตแล้ว ขณะกำลังจะตั้งท่าหลับ
กัปตัน มันก็เริ่มฮัลโหล โฟนอินเข้ามาพูดไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม
ตลอดหลายปี ที่เคยนั่งเครื่องบินมา ผมเฝ้าสงสัย มาตลอดว่า คนเราเนี่ย มีเทคโนโลยี
สามารถทำให้เหล็ก หนักเป็น ตัน ๆ ลอยอยู่บนฟ้าได้
ทำไม๊ ทำไม จะทำให้เสียงโฟนอินจากห้องนักบิน มันชัด และฟังรู้เรื่อง กว่านี้ไม่ได้
ครืดคราด ๆ ปึ่ดปั่ด ๆ ยังกะ วิทยุตำรวจ
เคยสงสัยมาก จนเอาไปตั้งเป็นกระทู้ที่หว้ากอ pantip เลยนะ
มีคนมาช่วยตอบหลายคนเลย (อ่านแล้วบันเทิงมากกว่าได้สาระ)
แต่มีอยู่ความเห็นนึงเธอบอกว่า เพื่อนแอร์ของเธอเคยเล่าให้ฟัง กัปตันเค้าเขินเสียงตัวเอง เวลาโฟนอิน
เลยไม่กล้าพูดชัด
เช้ดดดดดดดดดด
ไอ้เสียงครืดคราด ๆ นี่ จริง ๆ แล้วนี่ ผู้ช่วยนักบิน เป็นคนช่วยทำเสียงใส่ไมค์กัปตันด้วยใช่มั้ย
ฟังกัปตันขี้อายเสร็จ พอจะจับใจความได้ว่า จะถึงคูเวตแล้ว
เดี๋ยวจะลดระดับเครื่องลงจอดที่สนามบินละ
ครึ่งทางงงง แล้วโว้ยย
ผมเปิดหน้าต่างออกไปดู ยังเห็นน้ำทะเลสีดำทมึนอยู่
แต่ก็เริ่้มเห็นแผ่นดิน อยู่ไกล ๆ แล้ว
แสงไฟ ดวงเล็ก ๆ ยิบยับอยู่ข้างหน้า สานกันเป็นเส้น เหมือนในแมงมุม
สวยจับใจ
นั่งมองแล้วคิด ไปได้เรื่อยเปื่อย ว่า คนเรานี่มันก็มดปลวกชัด ๆ
ตัวเล็กจนมองไม่เห็น แต่ก็สามารถสร้างแสงสว่างตอนกลางคืน เป็นพื้นที่ได้กว้างใหญ่ขนาดนี้
มันน่าทึ่งดีแฮะ
ซักพัก เครื่องเริ่มลดระดับลง เริ่มเห็นแผ่นดิน ถนน บ้านเรือน ชัดขึ้น ๆ
เริ่มเห็นอาคาร ถนน รถ ต้นไม้ และ ชีวิตข้างล่างแล้ว
รู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก
มันมีชีวิต มีผู้คน เหตุการณ์ มีเรื่องราว อีกมากมาย ข้างล่าง ที่ดำเนินของมันอยู่ทุกวัน
อยู่อีกซีกโลก ไกลโพ้นน กะที่ ๆ เราเคยอยู่เมื่อ 7 ชั่วโมงที่แล้ว
ใจมัน สงบ ๆ แปลก ๆ ยังไงไม่รู้
ผมพยายามจะเรียบเรียงประโยค อธิบายสิ่งที่คิดอยู่ตอนนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
แต่ก็เหมือนจะยัง ไม่สามารถสื่อสารออกมาให้ตรงกับที่ผมรู้สึกได้เท่าไร นักเลย
สิ่งที่ผมสังเกตเห็นได้แปลกตาอีกอย่าง นอกจากสิ่งก่อนสร้าง และแลนด์สเคปแปลก ๆแล้ว
ก็คือ กองอะไร ขาว ๆ ยังกะหิมะ ตามข้างถนน หลังคาบ้าน หรือตามต้นไม้ เต็มไปหมดทุกพื้นที่
เพ่งดูดี ๆ มันไม่ใช่หิมะ แต่นี่มันทรายนี่หว่า
ดูไปดูมา ประเทศนี้ เหมือนเมืองของเล่น ที่วางอยู่บนกองทรายชัด ๆ
มีแต่ทรายทุกพื้นที่เลย
นี่มันเรื่องปกติ หรือมันเพิ่งโดนพายุทรายถล่มก็ไม่รู้ แต่ว่ามันก็แปลกตาดีแฮะ
ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!!!
แหกกกก !!! ตกใจหมดเลย กำลังเหม่อเพลิน ๆ เครื่องลงแล้วววววว
กูจะออก ๆ ๆ ผมรีบลุกแรดไปยืนจ่อตรงประตู เหมือนกลัวว่าถ้าออกช้าแล้ว
เดี๋ยวจะไม่ได้ลง เหมือนนั่งรถเมล์
ทุกทีไม่เคยเป็นงี้เลยนะ แต่คราวนี้ ขอกูออกจากที่นี่ซักทีเถิดดด โหยหาแผ่นดินจะแย่แล้ว
ยาวแล้ว เอาแค่นี้ก่อน เดี๋ยว มีต่อตอนต่อไปนะ
เริ่มรู้สึกเหมือน ตัวเองกำลังเข้าคอร์ส ขุนลูกสุกรเพิ่มน้ำหนักระยะสั้นยังไงไม่รู้
หลับ ๆ อยู่เดี๋ยวพี่หนวดก็จะเปิดไฟปลุก จิกหัวขึ้นมากินอาหาร เป็นระยะ ๆ
กินเสร็จ นอนต่อ ซักพักก็ปลุกมากินขนม หรือเครื่องดื่มอีก
อาหารที่มาเสริฟรอบนี้ หน้าตาจะดูไม่น่าไว้ใจ
สภาพมันคล้าย ๆ ว่าจะเป็นน้ำแกง คล้ายแกงกะหรี่ และมีเม็ด ๆ อะไรซักอย่าง
อยู่ในน้ำแกงด้วย ไม่แน่ใจว่าเป็นถั่วอะไร หวังในใจว่าคงไม่ใช่ถั่วดำ
ข้าวก็ไม่มีให้กูกินด้วย หรือว่า นี่มันคงเป็นซุปแขกมากกว่ามั้ง
แต่ยังไง ก็คงไม่ได้มีโอกาส กินอาหารแขกกลางอากาศบ่อยนัก
ตอนนี้ถึงแม้ว่าจะไม่หิวเลย แต่ก็จะลองตักเข้าปากดูซะหน่อยละกัน
.
.
แง่มมม
.
.
.
อร่อยชิบ !!!!
.
.
.
น้ำแกงหอมเครื่องเทศ ฉุน ทิ่มเข้าไปในจมูก
มีรสเผ็ดร้อนผ่าว ๆ กำลังดี ไอ้ถั่วเม็ด ๆ นั่นก็หวานมัน นุ่มละมุน
ซึมซับน้ำแกงไว้ชุ่มเชียว
คนเรามันดูกันที่หน้ากะหนวด ไม่ได้จริง ๆ ด้วย
นี่พวกมึงจะมาขับเครื่องบินกันทำไม ทำไมไม่ไปเปิดร้านอาหารเนี่ย
ผมซดน้ำแกงจนเกือบเกลี้ยงถาดฟลอยด์ ใจจริง แทบจะอยากยก ถาดมาเลีย
แต่กลัวว่า นังหนวดดก มันผ่านมาเห็นแล้วเกิดมีอารมณ์ขึ้นมา เดี๋ยวงานเข้า
เลยต้อง เอาช้อนกวาดกิน เอาเท่าที่ทำได้แต่พองาม
อร่อยจัง นี่ถ้ามีข้าวสวยกินด้วยคงจะดีไม่น้อย
กินเสร็จ นั่งลูบพุงนุ้ยอยู่เพลิน ๆ ก็เหลือบไปเห็นผู้โดยสารแขกฮิปฮอป ที่นั่งอยู่เยื้อง ๆ
กำลังนั่งกินข้าวกล่องอยู่เหมือนกัน
เอ๋ ....
มันมีโรตีแผ่นกลม ๆ อยู่ในมือ แล้วมันก็ควักน้ำแกง เอามาป้าย แล้วก็เอาเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ
พร้อมกะโยกหัวไปตามจังหวะเพลงฮิปฮอปแขก ที่เสียบอยู่ในหูมัน
(เห็นในจอทีวีที่หน้าเบาะมัน เป็น MV แขกฮิปฮอป วิ่งสับขาหลอก หลบกันอย่างเมามันส์)
อ้าว ไอ้แผ่น ๆ นั่นโรตี กินได้หรอกหรอ
กูนึกว่าที่รองแก้ว
ทำไมกูควายอย่างนี้ ถึงว่าที่รองแก้วทำไมมันใหญ่จริง
มีใครเห็นกู ออนเดอะร็อค ไปแล้วบ้างเนี่ย...
อับอายไปถึงไหน ๆ
แกล้งหลับหนีอายดีกว่า...
ตอนนี้ใกล้จะถึงคูเวตแล้ว ขณะกำลังจะตั้งท่าหลับ
กัปตัน มันก็เริ่มฮัลโหล โฟนอินเข้ามาพูดไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม
ตลอดหลายปี ที่เคยนั่งเครื่องบินมา ผมเฝ้าสงสัย มาตลอดว่า คนเราเนี่ย มีเทคโนโลยี
สามารถทำให้เหล็ก หนักเป็น ตัน ๆ ลอยอยู่บนฟ้าได้
ทำไม๊ ทำไม จะทำให้เสียงโฟนอินจากห้องนักบิน มันชัด และฟังรู้เรื่อง กว่านี้ไม่ได้
ครืดคราด ๆ ปึ่ดปั่ด ๆ ยังกะ วิทยุตำรวจ
เคยสงสัยมาก จนเอาไปตั้งเป็นกระทู้ที่หว้ากอ pantip เลยนะ
มีคนมาช่วยตอบหลายคนเลย (อ่านแล้วบันเทิงมากกว่าได้สาระ)
แต่มีอยู่ความเห็นนึงเธอบอกว่า เพื่อนแอร์ของเธอเคยเล่าให้ฟัง กัปตันเค้าเขินเสียงตัวเอง เวลาโฟนอิน
เลยไม่กล้าพูดชัด
เช้ดดดดดดดดดด
ไอ้เสียงครืดคราด ๆ นี่ จริง ๆ แล้วนี่ ผู้ช่วยนักบิน เป็นคนช่วยทำเสียงใส่ไมค์กัปตันด้วยใช่มั้ย
ฟังกัปตันขี้อายเสร็จ พอจะจับใจความได้ว่า จะถึงคูเวตแล้ว
เดี๋ยวจะลดระดับเครื่องลงจอดที่สนามบินละ
ครึ่งทางงงง แล้วโว้ยย
ผมเปิดหน้าต่างออกไปดู ยังเห็นน้ำทะเลสีดำทมึนอยู่
แต่ก็เริ่้มเห็นแผ่นดิน อยู่ไกล ๆ แล้ว
แสงไฟ ดวงเล็ก ๆ ยิบยับอยู่ข้างหน้า สานกันเป็นเส้น เหมือนในแมงมุม
สวยจับใจ
นั่งมองแล้วคิด ไปได้เรื่อยเปื่อย ว่า คนเรานี่มันก็มดปลวกชัด ๆ
ตัวเล็กจนมองไม่เห็น แต่ก็สามารถสร้างแสงสว่างตอนกลางคืน เป็นพื้นที่ได้กว้างใหญ่ขนาดนี้
มันน่าทึ่งดีแฮะ
ซักพัก เครื่องเริ่มลดระดับลง เริ่มเห็นแผ่นดิน ถนน บ้านเรือน ชัดขึ้น ๆ
เริ่มเห็นอาคาร ถนน รถ ต้นไม้ และ ชีวิตข้างล่างแล้ว
รู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก
มันมีชีวิต มีผู้คน เหตุการณ์ มีเรื่องราว อีกมากมาย ข้างล่าง ที่ดำเนินของมันอยู่ทุกวัน
อยู่อีกซีกโลก ไกลโพ้นน กะที่ ๆ เราเคยอยู่เมื่อ 7 ชั่วโมงที่แล้ว
ใจมัน สงบ ๆ แปลก ๆ ยังไงไม่รู้
ผมพยายามจะเรียบเรียงประโยค อธิบายสิ่งที่คิดอยู่ตอนนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
แต่ก็เหมือนจะยัง ไม่สามารถสื่อสารออกมาให้ตรงกับที่ผมรู้สึกได้เท่าไร นักเลย
สิ่งที่ผมสังเกตเห็นได้แปลกตาอีกอย่าง นอกจากสิ่งก่อนสร้าง และแลนด์สเคปแปลก ๆแล้ว
ก็คือ กองอะไร ขาว ๆ ยังกะหิมะ ตามข้างถนน หลังคาบ้าน หรือตามต้นไม้ เต็มไปหมดทุกพื้นที่
เพ่งดูดี ๆ มันไม่ใช่หิมะ แต่นี่มันทรายนี่หว่า
ดูไปดูมา ประเทศนี้ เหมือนเมืองของเล่น ที่วางอยู่บนกองทรายชัด ๆ
มีแต่ทรายทุกพื้นที่เลย
นี่มันเรื่องปกติ หรือมันเพิ่งโดนพายุทรายถล่มก็ไม่รู้ แต่ว่ามันก็แปลกตาดีแฮะ
ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!!!
แหกกกก !!! ตกใจหมดเลย กำลังเหม่อเพลิน ๆ เครื่องลงแล้วววววว
กูจะออก ๆ ๆ ผมรีบลุกแรดไปยืนจ่อตรงประตู เหมือนกลัวว่าถ้าออกช้าแล้ว
เดี๋ยวจะไม่ได้ลง เหมือนนั่งรถเมล์
ทุกทีไม่เคยเป็นงี้เลยนะ แต่คราวนี้ ขอกูออกจากที่นี่ซักทีเถิดดด โหยหาแผ่นดินจะแย่แล้ว
ยาวแล้ว เอาแค่นี้ก่อน เดี๋ยว มีต่อตอนต่อไปนะ
Total Comments 4
Comments
-
Posted 14-10-2009 at 03:48 PM by keano-manz -
Posted 15-10-2009 at 02:30 PM by zunshiro -
Posted 16-10-2009 at 10:42 AM by Labor3D -
Posted 16-10-2009 at 11:57 PM by Thoon Studio